- Home
- /
- Privacy Notice For Customer
Privacy Notice For Customer
ประกาศความเป็นส่วนตัวสําหรับลูกค้า
บริษัท อุตสาหกรรมไทยบรรจุภัณฑ์ จำกัด (มหาชน) (ต่อไปนี้เรียกว่า “บริษัท”) เคารพสิทธิความเป็นส่วนตัวของลูกค้า รวมถึงบุคคลธรรมดาที่ดําเนินการให้ลูกค้าซึ่งเป็นนิติบุคคลด้วย (ต่อไปนี้เรียกว่า “ท่าน”) และเพื่อให้เกิดความมั่นใจว่าท่านได้รับความคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล จึงได้จัดทํานโยบายความเป็นส่วนตัวฉบับนี้ขึ้น เพื่อแจ้งให้ทราบถึงรายละเอียดที่เกี่ยวข้องกับการเก็บรวบรวม การใช้ และการเปิดเผย (รวมเรียกว่า “การประมวลผล”) รวมตลอดถึงการลบและทําลายข้อมูลส่วนบุคคลของท่านทั้งช่องทางออนไลน์ และช่องทางอื่นๆตามที่กฎหมายคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลกําหนด ดังนี้
1. วัตถุประสงค์การประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคล
1.1 เพื่อใช้ในการดําเนินการตามคําขอของท่านก่อนเข้าทําสัญญาหรือเพื่อปฏิบัติตามสัญญาซึ่งท่านเป็นคู่สัญญากับบริษัท เช่น เพื่อการขายสินค้า และ/หรือ บริการให้แก่ท่าน หรือปฏิบัติตามสัญญาใดๆ ซึ่งท่านเป็นคู่สัญญา ซึ่งรวมถึงการจัดการบัญชีผู้ใช้ (Account) ของท่าน การจัดส่งสินค้า การดําเนินการเกี่ยวกับบัญชีและการเงิน การบริการหลังการขาย และการคืนสินค้า และดําเนินการใดๆ เพื่อให้ท่านได้รับสินค้าและ/หรือ บริการ หรือตามที่ท่านได้ร้องขอ
1.2 เพื่อประโยชน์โดยชอบด้วยกฎหมายของบริษัทหรือของบุคคลอื่น
(1) เพื่อให้บริษัทสามารถจัดการ พัฒนา และดําเนินการใดๆ เพื่อให้สามารถดําเนินธุรกิจได้ ซึ่งรวมถึงการดําเนินการใดๆ เพื่อให้เป็นไปตามการอนุญาตให้ใช้สิทธิ การบริหารจัดการและพัฒนาสินค้า และ/หรือ บริการ (รวมถึงเว็บไซต์ และเฟสบุ๊ค) การตรวจสอบและป้องกันการฉ้อโกง หรืออาชญากรรมอื่นๆ การจัดการความสัมพันธ์ลูกค้าและผู้ที่อาจเป็นลูกค้า การบํารุงรักษาและการใช้ระบบไอที
(2) เพื่อประโยชน์ทางด้านความปลอดภัย เช่น จัดให้มีมาตรการรักษาความปลอดภัย ซึ่งรวมถึงข้อมูลส่วนบุคคลของท่านด้วย เช่น การเข้าสถานที่ของบริษัท เป็นต้น
(3) เพื่อดําเนินการทางการตลาด และวิเคราะห์ข้อมูล (Marketing and Data Analysis) เช่น การแจ้งข่าวสารและสิทธิประโยชน์ ผ่านทาง อีเมล เอสเอ็มเอส แอปพลิเคชัน โซเชียลมีเดีย โทรศัพท์ ไดเร็กเมล รวมถึงเพื่อประโยชน์ในการวิจัยทางการตลาด เช่น ทําแบบสอบถาม เข้าสัมภาษณ์
(4) เพื่อการใช้สิทธิเรียกร้องทางกฎหมาย
1.3 เพื่อป้องกันและระงับอันตรายต่อชีวิต ร่างกาย หรือสุขภาพของท่านหรือบุคคลอื่น เช่น การติดต่อในกรณีฉุกเฉิน การควบคุมและป้องกันโรคติดต่อ
1.4 เพื่อให้สามารถปฏิบัติตามกฎหมาย เช่น การปฏิบัติตามบทบัญญัติของกฎหมาย กฏระเบียบ และคําสั่งของผู้ที่มีอํานาจตามกฎหมาย
1.5 เพื่ออการปฏิบัติหน้าที่ในการดําเนินภารกิจเพื่อประโยชน์สาธารณะของบริษัท หรือปฏิบัติหน้าที่ในการใช้อํานาจรัฐที่ได้มอบให้
1.6 กรณีที่ท่านให้ความยินยอมบริษัทจะประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคล
(1) เพื่อให้บริษัท สามารถส่งข่าวสารและสิทธิประโยชน์ผ่านทางอีเมล เอสเอ็มเอส แอปพลิเคชัน โซเชียลมีเดีย โทรศัพท์ และไดเร็กเมล
(2) เพื่อให้บริษัทดําเนินการจัดกิจกรรมนอกจากที่กล่าวมาข้างต้น โดยอาจเก็บข้อมูลส่วนบุคคลของท่านเพิ่มเติม โดยจะแจ้งให้ทราบและขอความยินยอมจากท่านใหม่เป็นคราวๆ ไป ทั้งนี้ ท่านสามารถศึกษารายละเอียดเกี่ยวกับความยินยอมได้ในข้อ 3
2. ข้อมูลส่วนบุคคลทีเก็บรวบรวม
2.1 เมื่อท่านจะซื้อสินค้า และ/หรือ บริการ บริษัทจะเก็บรวบรวมข้อมูลส่วนบุคคล ดังนี้
(1) ข้อมูลส่วนตัว เช่น ชื่อ นามสกุล วันเดือนปีที่เกิด สถานภาพ ที่อยู่ ข้อมูลตามที่ระบุในบัตรประจําตัวประชาชน หนังสือเดินทาง Facebook ID Line ID
(2) ข้อมูลการติดต่อ เช่น อีเมล เบอร์โทรศัพท์ ที่อยู่ ช่องทางติดต่อในโซเชียลมีเดีย สถานที่ทํางาน
(3) ข้อมูลเกี่ยวกับงานของท่าน เช่น อาชีพ ตําแหน่ง ประสบการณ์การทํางาน
(4) ข้อมูลเกี่ยวกับการซื้อสินค้า และ/หรือ บริการ เช่น ประวัติการซื้อสินค้า ประวัติการเคลมสินค้า ข้อร้องเรียน
(5) ข้อมูลเกี่ยวกับการเงิน เช่น หมายเลขบัญชีธนาคาร ข้อมูลรายได้ สิทธิประโยชน์ที่ท่านได้รับ ประวัติการจ่ายเงิน รายได้
(6) ข้อมูลที่ท่านได้ให้ไว้แก่เมื่อท่านติดต่อบริษัท หรือบริษัทดูแลให้บริการหลังการขาย การทําวิจัย และการสัมภาษณ์
2.2 เมื่อท่านติดต่อบริษัท หรือร่วมกิจกรรมใด ๆ กับบริษัท เช่น ติดต่อบริษัท การทํา Customer Satisfaction Surveyกิจกรรมสิทธิประโยชน์ต่าง ๆ บริษัทจะเก็บรวบรวมข้อมูลส่วนบุคคล เช่น
(1) ข้อมูลส่วนตัว เช่น ชื่อ นามสกุล วันเดือนปีที่เกิด รูปถ่าย หมายเลขบัตรประชาชน หมายเลขใบขับขี่ หมายเลขหนังสือเดินทาง
(2) ข้อมูลการติดต่อ เช่น อีเมล เบอร์โทรศัพท์ ที่อยู่
(3) ข้อมูลเกี่ยวกับการร่วมกิจกรรม เช่น ประวัติการร่วมกิจกรรมในครั้งก่อนๆ ภาพถ่ายในแต่ละกิจกรรม
2.3 บริษัทอาจมีความจําเป็นต้องเก็บรวบรวมและประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลชนิดข้อมูลอ่อนไหวตามที่กฎหมายคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลกําหนด เพื่อใช้งานตามวัตถุประสงค์ที่บริษัทแจ้งไว้ในนโยบายความเป็นส่วนตัวนี้ เช่น
(1) ในบางกรณี บริษัทอาจเก็บข้อมูลส่วนบุคคลที่มีความอ่อนไหว(Sensitive Personal Data) ของท่าน แม้ว่าสินค้าหรือบริการนั้นไม่ได้เกี่ยวข้องกับข้อมูลชนิดพิเศษโดยตรง เช่น บริษัทจําเป็นต้องใช้บัตรประชาชนของท่าน ซึ่งมีข้อมูลศาสนา เพื่อใช้ในการยืนยันตัวตนของท่าน หรือดําเนินการทางภาษี
(2) ข้อมูลสุขภาพ เช่น ข้อมูลการแพ้อาหาร ข้อมูลการฉีดวัคซีน เพื่อใช้ในการดําเนินกิจกรรมต่างๆ
2.4 ในกรณีที่จําเป็น บริษัทจะประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลที่มีความอ่อนไหว(Sensitive Personal Data) ของท่านโดยได้รับความยินยอมโดยชัดแจ้งจากท่านหรือเพื่อวัตถุประสงค์อื่นตามที่กฎหมายกําหนดไว้เท่านั้น ทั้งนี้ บริษัทจะใช้ความพยายามอย่างดีที่สุดในการจัดให้มีมาตรการรักษาความปลอดภัยที่เพียงพอเพื่อปกป้องคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลที่มีความอ่อนไหวของท่าน
3. การขอความยินยอมและผลกระทบที่เป็นไปได้จากการถอนความยินยอม
3.1 ในกรณีที่บริษัทเก็บรวบรวมและประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลโดยอาศัยความยินยอมของท่าน ท่านมีสิทธิที่จะถอนความยินยอมของท่านที่ให้ไว้กับบริษัทได้ตลอดเวลา ซึ่งการถอนความยินยอมนี้จะไม่ส่งผลกระทบต่อการเก็บรวบรวม ใช้ เปิดเผย หรือประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลที่ท่านได้ให้ความยินยอมไปแล้ว
3.2 หากท่านถอนความยินยอมที่ได้ให้ไว้กับบริษัทหรือปฏิเสธไม่ให้ข้อมูลบางอย่าง อาจส่งผลให้บริษัทไม่สามารถดําเนินการเพื่อบรรลุวัตถุประสงค์บางส่วนหรือทั้งหมดตามที่ระบุไว้ในนโยบายความเป็นส่วนตัวนี้ได้
3.3 หากท่านมีอายุไม่ครบ 20 ปีบริบูรณ์ ก่อนการให้ความยินยอมโปรดแจ้งรายละเอียดผู้ปกครองให้บริษัททราบเพื่อให้บริษัทสามารถดําเนินการขอความยินยอมจากผู้ปกครองด้วย
4. ระยะเวลาในการเก็บรักษาข้อมูลส่วนบุคคล
4.1 บริษัทจะเก็บข้อมูลส่วนบุคคลของท่านในระยะเวลาที่จําเป็นเพื่อให้บรรลุวัตถุประสงค์ตามประเภทข้อมูลส่วนบุคคลแต่ละประเภท เว้นแต่กฎหมายจะอนุญาตให้มีระยะเวลาการเก็บรักษาที่นานขึ้น ในกรณีที่ไม่สามารถระบุระยะเวลาการเก็บรักษาข้อมูลส่วนบุคคลได้ชัดเจน บริษัทจะเก็บรักษาข้อมูลไว้ตามระยะเวลาที่อาจคาดหมายได้ตามมาตรฐานของการเก็บรวบรวม (เช่น อายุความตามกฎหมายทั่วไปสูงสุด 10 ปี)
4.2 บริษัทจัดให้มีระบบการตรวจสอบเพื่อดําเนินการลบหรือทําลายข้อมูลส่วนบุคคลเมื่อพ้นกําหนดระยะเวลาการเก็บรักษาหรือที่ไม่เกี่ยวข้องหรือเกินความจําเป็นตามวัตถุประสงค์ในการเก็บรวบรวมข้อมูลส่วนบุคคลนั้น
4.3 กรณีที่บริษัทใช้ข้อมูลส่วนบุคคลของท่านโดยขอความยินยอมจากท่าน บริษัทจะประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลดังกล่าวจนกว่าท่านจะแจ้งขอยกเลิกความยินยอมและบริษัทดําเนินการตามคําขอของท่านเสร็จสิ้นแล้ว อย่างไรก็ดี บริษัทจะยังเก็บข้อมูลส่วนบุคคลของท่านเท่าที่จําเป็นสําหรับบันทึกเป็นประวัติว่าท่านเคยยกเลิกความยินยอม เพื่อให้ บริษัทสามารถตอบสนองต่อคําขอของท่านในอนาตได้
5. การเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลให้บุคคลอื่น
5.1 บริษัทเปิดเผยและแบ่งปันข้อมูลส่วนบุคคลของท่านกับ
(1) บุคคลและนิติบุคคลอื่น (“บุคคลอื่น”) เพื่อบรรลุวัตถุประสงค์การเก็บรวบรวมและประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลตามที่ระบุไว้ในนโยบายความเป็นส่วนตัวนี้ เช่น ผู้ให้บริการด้านการขนส่ง (เช่น ไปรษณีย์) ผู้ให้บริการภายนอกที่ให้บริการและทําหน้าที่ภายใต้การควบคุมของบริษัท เช่น ช่วยในการประมวลผลการทํารายการ ส่งโฆษณาสําหรับผลิตภัณฑ์และบริการของบริษัท หรือให้ความช่วยเหลือและบริการแก่ท่าน ผู้ให้บริการเกี่ยวกับธุรกรรมและการเงิน (เช่น ธนาคาร บริษัทรับชําระเงินแทน) ผู้ให้บริการทางด้านเทคโลยี (เช่น ระบบคลาวด์ ระบบบล็อคเชน บริการส่ง SMS บริการ data analytics) ผู้ให้บริการจัดทําโปรแกรมและระบบไอทีต่างๆ ผู้ตรวจสอบ บริษัทประกัน ที่ปรึกษา หน่วยงานของรัฐ (เช่น กรมสรรพากร สํานักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน) และบุคคลอื่นที่จําเป็นเพื่อให้บริษัทสามารถดําเนินธุรกิจและให้บริการแก่ท่าน รวมถึงดําเนินการใดๆ ตามวัตถุประสงค์การเก็บรวบรวมและประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลตามที่ระบุไว้ในนโยบายความเป็นส่วนตัวนี้
5.2 บริษัทจะกําหนดให้ผู้ที่ได้รับข้อมูลมีมาตรการปกป้องข้อมูลของท่านอย่างเหมาะสมและประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลดังกล่าวเท่าที่จําเป็นเท่านั้น และดําเนินการเพื่อป้องกันไม่ให้ใช้หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลโดยปราศจากอํานาจโดยมิชอบ
6. บริษัทอาจเก็บข้อมูลของท่านบนคอมพิวเตอร์เซิร์ฟเวอร์หรือคลาวด์ที่ให้บริการโดยบุคคลอื่น
6.1 บริษัทอาจเก็บข้อมูลของท่านบนคอมพิวเตอร์เซิร์ฟเวอร์หรือคลาวด์ที่ให้บริการโดยบุคคลอื่นและอาจใช้โปรแกรมหรือแอปพลิเคชันของบุคคลอื่นในรูปแบบของการให้บริการซอฟท์แวร์สําเร็จรูปและรูปแบบของการให้บริการแพลตฟอร์มสําเร็จรูปในการประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน แต่บริษัทจะไม่อนุญาตให้บุคคลที่ไม่เกี่ยวข้องสามารถเข้าถึงข้อมูลส่วนบุคคลได้ และจะกําหนดให้บุคคลอื่นเหล่านั้นต้องมีมาตรการคุ้มครองความมั่นคงปลอดภัยที่เหมาะสม
6.2 ในกรณีที่มีการส่งข้อมูลส่วนบุคคลของท่านไปยังคอมพิวเตอร์เซิร์ฟเวอร์หรือคลาวด์ที่ให้บริการโดยบุคคลอื่น บริษัทจะปฏิบัติตามกฎหมายคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลและใช้มาตรการที่เหมาะสมเพื่อทําให้มั่นใจได้ว่าข้อมูลส่วนบุคคลของท่านจะได้รับการคุ้มครองและท่านสามารถใช้สิทธิที่เกี่ยวข้องกับข้อมูลส่วนบุคคลของท่านได้ตามกฎหมาย รวมถึงบริษัทจะกําหนดให้ผู้ที่ได้รับข้อมูลมีมาตรการปกป้องข้อมูลของท่านอย่างเหมาะสมและประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลดังกล่าวเท่าที่จําเป็นเท่านั้น และดําเนินการเพื่อป้องกันไม่ให้บุคคลอื่นใช้หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลโดยปราศจากอํานาจโดยมิชอบ
7. มาตรการความปลอดภัยสําหรับข้อมูลส่วนบุคคล
7.1 ความปลอดภัยของข้อมูลส่วนบุคคลของท่านเป็นสิ่งสําคัญสําหรับบริษัท และบริษัทได้นํามาตรฐานความปลอดภัยทางเทคนิคและการบริหารที่เหมาะสมมาใช้เพื่อปกป้องข้อมูลส่วนบุคคลจากการสูญหาย การเข้าถึงการใช้หรือการเปิดเผยโดยไม่ได้รับอนุญาต การใช้งานในทางที่ผิด การดัดแปลงเปลี่ยนแปลง และการทําลายโดยใช้เทคโนโลยีและขั้นตอนการรักษาความปลอดภัย เช่น การเข้ารหัสและการจํากัดการเข้าถึง เพื่อให้มั่นใจว่าบุคคลที่ได้รับอนุญาตเท่านั้นที่เข้าถึงข้อมูลส่วนบุคคลของท่านและบุคคลเหล่านี้ได้รับการฝึกอบรมเกี่ยวกับความสําคัญของการปกป้องข้อมูลส่วนบุคคล
7.2 บริษัทจัดให้มีมาตรการรักษาความปลอดภัยที่เหมาะสม เพื่อป้องกันการสูญหาย เข้าถึง ใช้ เปลี่ยนแปลง แก้ไข เปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลจากผู้ที่ไม่มีสิทธิหรือหน้าที่ที่เกี่ยวข้องกับข้อมูลส่วนบุคคลนั้น และจะจัดให้มีการทบทวนมาตรการดังกล่าวเมื่อมีความจําเป็นหรือเมื่อเทคโนโลยีเปลี่ยนแปลงไปเพื่อให้มีประสิทธิภาพในการรักษาความปลอดภัยที่เหมาะสม
8. สิทธิเกี่ยวกับข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน
ท่านมีสิทธิ
(1) สิทธิในการเพิกถอนความยินยอมให้บริษัทประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน
(2) สิทธิในการเข้าถึงและรับสำเนาข้อมูลส่วนบุคคลที่บริษัทได้เก็บรวบรวม ใช้ เปิดเผย
(3) สิทธิในการขอให้โอนย้ายข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน
(4) สิทธิในการคัดค้าน การประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน
(5) สิทธิในการขอให้ลบ ทำลาย หรือทำให้ข้อมูลส่วนบุคคลของท่านซึ่งไม่อาจระบุตัวตนได้
(6) สิทธิในการระงับการใช้ข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน
(7) สิทธิในการขอแก้ไขข้อมูลส่วนบุคคลของท่านให้ถูกต้องเป็นปัจจุบัน สมบูรณ์ และไม่ก่อให้เกิดความเข้าใจผิด
(8) สิทธิที่จะร้องเรียนในกรณีที่ท่านเห็นว่าถูกบริษัทหรือเจ้าหน้าที่หรือตัวแทนของบริษัทละเมิดสิทธิตามพระราชบัญญัติคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล พ.ศ.2562
การร้องขอใด ๆ เพื่อการใช้สิทธิของท่านตามที่กล่าวข้างต้น จะต้องกระทำเป็นลายลักษณ์อักษร / ระบบอิเล็กทรอนิกส์ ตามที่บริษัทกำหนด และบริษัทจะใช้ความพยายามอย่างดีที่สุดที่จะดำเนินการภายในระยะเวลาที่สมเหตุสมผล และไม่เกินระยะเวลาที่กฎหมายกำหนด โดยบริษัทจะปฏิบัติตามข้อกำหนดทางกฎหมายที่เกี่ยวกับสิทธิของท่านในฐานะเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคล
9. ข้อมูลเกี่ยวกับผู้ควบคุมข้อมูลส่วนบุคคล
9.1 ผู้ควบคุมข้อมูลส่วนบุคคลของบริษัท
บริษัท อุตสาหกรรมไทยบรรจุภัณฑ์ จำกัด (มหาชน)
สถานที่ติดต่อ: 44/5 ม.3 ต.คอกกระบือ อ.เมืองสมุทรสาคร จ.สมุทรสาคร 74000
9.2 กรณีที่ท่านมีข้อสอบถามเกี่ยวกับการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล โปรดติดต่อทาง e-mail: PrivacyCustomer@tipak.co.th
กรณีที่มีการแก้ไขเปลี่ยนแปลงนโยบายความเป็นส่วนตัวนี้ บริษัทจะประกาศนโยบายความเป็นส่วนตัวฉบับใหม่ผ่านทางเว็บไซต์นี้ ซึ่งท่านควรเข้ามาตรวจสอบความเปลี่ยนแปลงประกาศความเป็นส่วนตัวเป็นครั้งคราว โดยประกาศความเป็นส่วนตัวฉบับใหม่จะมีผลบังคับใช้ทันทีในวันที่ประกาศ
นโยบายความเป็นส่วนตัวสําหรับลูกค้า (Privacy Notice For Customer) ได้รับการปรับปรุงล่าสุดเมื่อวันที่ 1 พฤษภาคม 2565